ด้วยเหตุผลการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ ผู้ผลิตรถบางรายอาจนำคุณสมบัติดานความปลอดภัยบางอย่างออกไป แต่เราคิดว่ามี 11 ระบบความปลอดภัยที่ควรเก็บไว้เป็นมาตรฐานในรถทุกคัน
เมื่อไม่นานมานี้ ถุงลมนิรภัยและ ABS เคยเป็นอุปกรณ์เสริมที่จะมีในรถบางรุ่น แต่เดี๋ยวนี้ถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐานขั้นต่ำในรถทุกคันแล้ว
ส่วนคานกันกระแทกนั้นได้รับการเรียกร้องให้มีเป็นมาตรฐานในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ค่ายรถส่วนใหญ่ก็มีให้แล้ว
แต่ในด้านของเทคโนโลยีนั้น เรามี 11 ระบบความปลอดภัย ที่ควรมีในรถทุกคัน เพื่อเป็นมาตรฐานของรถในปี 2023 เป็นต้นไป ดังนี้
ระบบเตือนมุมอับสายตาด้านข้าง Blind Spot Monitoring (BCM)
ระบบเตือนมุมอับสายตาด้านข้างเป็นระบบที่จะใช้เซนเซอร์ที่มุมกันชนท้ายในการตรวจจับรถที่จะเข้ามาและจะส่งเป็นสัญลักษณ์เตือนที่บริเวณกระจกด้านข้าง หากเราจะเปลี่ยนเลน ระบบนี้จะช่วยให้เรารู้ก่อนว่ามีรถกำลังมาด้านข้าง
หากมีระบบนี้จะช่วยให้อุบัติเหตุน้อยลง ยิ่งเฉพาะรถที่มีมุมอับที่เกิดจากขนาดหรือการออกแบบของรถ
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
ระบบที่ควบคู่มาด้วยกันกับระบบเตือนจุดอับสัญญาณด้านข้างคือระบบนี้ เพราะจะใช้เซนเซอร์จากบริเวณเดียวกัน แต่จะใช้เตือนเวลาถอยหลังซึ่งจะสามารถตรวจจับรถที่จะเข้ามา จักรยาน รถเข็น คนเดินเท้า และเด็กเล็กได้
ระบบนี้จะเตือนผู้ขับขี่ที่บริเวณมาตรวัดของรถเป็นสัญลักษณ์และเสียง ที่บริเวณหน้าจอตอนถอยหลังหรือกระจกข้าง
เช่นเดียวกันกับระบบเตือนมุมอับสายตาด้านข้าง ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลังนั้นควรที่จะมีในรถทุกรุ่น เพราะจะช่วยลดอุบัติเหตุได้มาก
ระบบเตือนเปิดประตูจากด้านในรถ Door-exit warning
ระบบนี้จะเป็นการใช้เซนเซอร์บริเวณมุมกันชนด้านหลังเพื่อเตือนคนด้านในรถไม่ให้เปิดประตูชนสิ่งที่อยู่ภายนอกรถ เช่น คนเดินเท้า นักขับจักรยาน ไปจนถึงรถยนต์ ซึ่งจะเตือนบริเวณกระจกข้างของรถหรือบริเวณเสา B ด้านในรถหากเป็นประตูหลัง
ระบบนี้เป็นอีกระบบหนึ่งที่ในปัจจุบันจะมีแต่ในรถรุ่นท็อป ๆ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ดีมากหากระบบนี้มีในรถยนต์ทุกรุ่น
อ่านเพิ่มเติม: Lexus เปิดตัวเทคโนโลยี ‘Safe Exit’ ครั้งแรกที่ช่วยปกป้องนักปั่นจักรยานและคนเดินเท้าได้
ระบบตรวจจับป้ายจำกัดความเร็ว Speed Sign Recognition
ระบบตรวจจับป้ายจำกัดความเร็วในสมัยก่อนจะใช้พื้นฐานจากแผนที่ในรถ ซึ่งจะล้าสมัยได้ง่าย แต่ในปัจจุบันจะใช้กล้องด้านหน้าจากตัวรถตรวจจับป้ายเหล่านั้นได้ทันทีเหมือนใช้ตามอง
ซึ่งความสามารถในการตรวจจับนั้นขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของกล้องหน้ารถ ว่าจะสามารถตรวจจับป้ายต่าง ๆ ที่เป็นแบบที่อยู่ริมถนนทั่วไป แบบดิจิตอล แบบที่อยู่เหนือศีรษะ ป้ายเขตก่อสร้าง ไปจนถึงป้ายแสดงเขตโรงเรียน
เทคโนโลยีนี้คาดว่าจะช่วยให้ท้องถนนมีความปอดภัยมากขึ้นเนื่องจากเราสามารถขับรถได้ตามความเร็วที่กำหนดได้มากขึ้น
อ่านเพิ่มเติม : ระบบ Full Self Driving ของ Tesla อาจโดนหลอกให้หยุดเร็วเกินไป
ระบบตรวจสอบลมยาง Tire Pressure Monitoring
ในบางประเทศ เช่น สหรัฐฯ หรือหลาย ๆ ประเทศบังคับให้รถใหม่ทุกคันต้องมีฟังก์ชั่นนี้ แต่ในบางประเทศก็ไม่ได้บังคับในเรื่องนี้ เช่น ในประเทศไทย แต่เราพบว่าเทคโนโลยีนี้มีประโยชน์อย่างมาก
เนื่องจากที่ว่า แรงดันลมยางมีผลอย่างมากต่อความปลอดภัยบนท้องถนน เพราะการทียางแฟบกระทันหันอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุในความเร็วสูงได้
การมีระบบตรวจสอบลมยางจะเป็นการเตือนให้ผู้ขับขี่รู้ได้ทันทีถึงแรงดันลมยาง และสามารถรับรู้ว่าแรงดันลมยางของแต่ละล้อนั้นเท่ากันหรือไม่ และพิจารณาถึงความจำเป็นว่าจะต้องเติมลมยางแล้วหรือไม่
ระบบเตือนเมื่อรถข้างหน้าขยับ Forward car movement alert
เราจะพบว่ารถใหม่หลายคันจะมีระบบที่สามารถเตือนเมื่อรถข้างหน้าขยับหลังจากที่เราติดไฟแดงได้ โดยเทคโนโลยีนี้ะเป็นการส่งเสียงเตือนภายในห้องโดยสารเบา ๆ และส่งสัญญาณที่บริเวณมาตรวัดเพื่อเตือนผู้ขับขี่ให้ขยับรถต่อไป
ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดความแออัดของการจราจรและยังลดการตอบสนองที่มากเกินไปของผู้ขับขี่เมื่อรับรู้ว่ารถข้างหน้าขยับไปไกลแล้ว
มาตรวัดดิจิทัล
การกำหนดความเร็วของรถยนต์ในแต่ละพื้นที่อาจทำให้เราต้องควบคุมความเร็วอยู่บ่อยครั้ง การที่เรามีมาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัลอาจช่วยให้เราเห็นความเร็วได้แม่นยำขึ้น ต่างจากมาตรวัดแบบเข็มที่มีความคลุมเครือ
ระบบเตือนที่นั่งด้านหลัง Rear Seat Reminder
ระบบเตือนที่นั่งด้านหลังถูกนำเข้ามาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถหลายคันในปัจจุบัน เนื่องด้วยระบบนี้เป็นหนึ่งในเกณฑ์ที่ใช้ทดสอบความปลอดภัยเพื่อจะไปให้ถึง 5 ดาว ขั้นต่อไปของระบบนี้คือการทำให้ระบบยังสามารถเตือนผู้ขับขี่ได้แม้จะดับเครื่องไปแล้ว
เพราะด้วยสถานการณ์ที่พ่อแม่เด็กลืมเด็กไว้ในรถจนเกิดเหตุการณ์อันน่าเศร้าขึ้น ทำให้ระบบนี้ดูมีความสำคัญอย่างมาก
อ่านเพิ่มเติม : ระบบเตือนให้เช็คเบาะหลังของ 2023 Volvo EX90 นั้นล้ำกว่าทุกค่าย
ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ
ในรถยนต์สมัยก่อน แผงคอนโซลของรถจะเชื่อมต่อกันกับไฟหน้าของรถ เพราะเมื่อด้านนอกของรถมืดลงแล้ว เราจะไม่เห็นอะไรในรถเลย จึงจำเป็นต้องเปิดไฟหน้าขึ้น ไฟในรถถึงจะสว่างขึ้นด้วย
แต่รถยนต์ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะมีมาตรวัดแบบดิจิทัลซึ่งจะมีไฟอยู่แล้วจึงทำให้ผู้ขับขี่อาจลืมที่จะเปิดไฟหน้าเวลากลางคืนได้ เพราะผู้ขับขี่หลายคนก็อาจจะไม่ได้สังเกตว่าไฟหน้าเปิดอยู่หรือไม่
ฟังก์ชั่นนี้นอกจากจะป้องกันไม่ให้ลืมเปิดไฟหน้า ยังช่วยให้เห็นด้านหน้าของรถได้ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงทำให้ไฟหรี่ด้านท้ายติดขึ้นมา ผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นจะสังเกตรถของเราได้ง่ายขึ้น ส่งผลถึงความปลอดภัยของรถและท้องถนนอีกด้วย
ไฟหน้าแบบ LED
ทุกวันนี้ เทคโนโลยีไฟหน้าแบบ LED นั้นมีราคาถูกลงเมื่อเทียบกับสมัยก่อน จึงไม่มีเหตุผลที่จะยังใช้ไฟหน้าแบบฮาโลเจนอยู่ เนื่องด้วยไฟแบบ LED นั้นมีความสว่างมากกว่า การที่เรามีไฟที่สว่างมากกว่าจะทำให้เราเห็นถนนได้ดีขึ้น ส่งผลให้รถเรามีความปลอดภัยยิ่งขึ้น ฟังก์ชั่นนี้จึงควรมีในรถทุกรุ่นย่อย
ระบบควบคุมให้อยู่ในเลน
ระบบควบคุมให้อยู่ในเลนนั้นมีความจำเป็นต่อความปลอดภัยของรถเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนขับทางไกล เพราะความเหนื่อยล้าจากการขับขี่เป็นเวลานานอาจทำให้การควบคุมรถมีประสิทธิภาพน้อยลง
หนึ่งในนั้นคือการควบคุมรถให้อยู่ในเลน การเปิดระบบนี้จะทำให้เมื่อเราเผลอจากความเหนื่อยล้าและกำลังที่ขับออกนอกเลน ระบบก็จะส่งเสียงและสัญญาณให้เราทราบก่อนได้
แต่ระบบนี้ก็มีข้อเสียที่ว่าเมื่อขับขี่ในเมืองหรือตอนที่เราไม่ได้ขับขี่ไกลนัก สัญญาณเตือนเหล่านี้อาจสร้างความรำคาญใจไปบ้าง
ระบบความปลอดภัยทั้ง 11 อย่างนี้ควรจะเป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานของรถทุกรุ่นทุกคันในปี 2023 นี้หรือไม่ สามารถแบ่งปันความคิดเห็นมากันได้ครับ
อ่านเพิ่มเติม : IIHS จำเป็นต้องเพิ่มมาตรฐานทดสอบการชน เพราะกระบะ EV มีน้ำหนักตัวมากขึ้น
Source: 11 ระบบความปลอดภัย ที่ควรมีเป็นมาตรฐานสำหรับรถใหม่ทุกคันตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป