ขับมาเทียบ สรุปข้อดีและข้อเสียที่พบในรถ Suzuki XL7, Mitsubishi Xpander และ Honda BR-V

ขับรถมาเทียบให้เห็นความแตกต่างชัดเจน กับรถในกลุ่ม Mini MPV ที่มีคาแรคเตอร์แตกต่างกันอย่างมากคือ Suzuki XL7, Mitsubishi Xpander และ Honda BR-V งานนี้ได้ค้นพบสิ่งที่ชอบ และไม่ชอบ หลังจากได้ลองขับทั้ง 3 รุ่นนี้

Suzuki XL7 ใช้งานครอบจักรวาล

Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) มีสิ่งที่เราชอบคือ ความดุดันทางรูปทรง ด้วยการแต่งแนวออฟโรดขาลุย ด้วยการให้กระจังคาดโครเมียมใหย่ คิ้วซุ้มล้อใหญ่ มีหลังคาทูโทนทำให้ไม่ดูโล้นเกินไป และเป็นรถรุ่นเดียวในกลุ่มนี้ ที่ให้เซนเซอร์ถอยหลังพร้อมกล้องมองหลังมาในคันเดียวกัน พร้อมให้กล้องบันทึกการขับขี่ และเป็นรุ่นเดียวที่ให้แท่นชาร์จไร้สาย กับช่อง HDMI ยังมีอยู่ครบ ที่สำคัญคือ มีราคาถูกสุดในกลุ่มนี้แค่ 814,000 บาท

สิ่งที่ไม่ชอบ

จากการลองใช้งาน Suzuki XL7 สิ่งที่เราไม่ชอบคือ เบาะรองนั่งแถวกลางไม่สามารถพับขึ้นได้ ทำให้ผู้โดยสารเข้า-ออกไปตอนที่ 3 ลำบากกว่าคู่แข่งที่พับขึ้นได้หมด อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ชอบใจนักก็คือ ระบบความปลอดภัย มีแค่ถุงลมคู่หน้า กับระบบปกป้องพื้นฐาน แต่ไม่มีระบบช่วยเหลือการขับขี่ใด ๆ และอย่างสุดท้ายคือเกียร์ 4 สปีดของเขา ที่ยังทำรอบเครื่องสูงกว่าใครในการวิ่งทางไกลอยู่

Mitsubishi Xpander ปรับใหม่ดีขึ้นเยอะ

สิ่งที่เราชอบ วัสดุของ Xpander ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ มีการให้นวมนิ่มมือ พร้อมหุ้มหนังให้หลายจุด ช่วยเรื่องความสวยงาม แถมช่วยการซับเสียง ความแน่นหนาของวัสดุพลาสติกภายในที่ไม่มีเบียดกันแล้ว ส่วนออพชั่นต่าง ๆ ก็ใส่มาให้เยอะกว่าเดิม ทั้งหน้าจอใหญ่ขึ้น ออพชั่นอย่างครูสคอนโทรล กับเบรคมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold ก็ให้มาแล้วในโฉมนี้

นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ถูกใจทีมงานอีกอย่างคือ ความกว้างขวางภายใน พื้นที่เหนือศีรษะดี และมีพื้นที่ใต้ท้องรถสูงมาก ทำให้ลุยได้ไม่แพ้ SUV หลายรุ่น อีกทั้งความหนึบจากโช้คอัพใหม่ แก้ไขข้อเสียเดิมไปหมดจรด ให้ความนิ่มนวลยามโดยาารเต็มคัน โดยไม่มีอาการย้วยเป็นเรือ

ขาดฟังก์ชั่นเล็กน้อย

สิ่งที่เราไม่ชอบ รายละเอียดฟังก์ชั่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ควรอัพเกรดให้มาเต็มที่ เช่น ไฟหน้าเป็น LED ทั้งหมด ยกเว้นไฟหน้าฮาโลเจน หรือฟังก์ชั่นครูสคอนโทรลที่ใส่มาให้แล้ว แต่ไม่สามารถแปรผันความเร็วได้ ส่วนถุงลมมีแค่คู่หน้าเท่านั้น

จุดที่ควรแก้ไขคือ ระบบ Auto Start/Stop ที่พยายามยัดเยียดให้เราใช้งานทุกการสตาร์ทรถ แต่เราชอบปิดมันทิ้งไปทุกครั้ง ในขณะที่ระบบ Auto Hold ที่น่าจะมีประโยชน์สมควรจะเปิดไว้ตลอดเวลา กลับทำให้เราต้องกดเปิดทุกการสตาร์ทรถ สุดท้ายคือ ควรมีปุ่มปิดเสียงลำโพงทันที โดยไม่ต้องกดปุ่มลดเสียงค้างไว้

Honda BR-V พรีเมี่ยมแบบ SUV

ข้อดีของ Honda BR-V (ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่) สิ่งที่เราชอบคือ รูปทรง ตกแต่งแนวเรียบหรู ลายกระจังเป็นเปียโนแบล็ค เส้นโครเมียมน้อย ๆ และมีสัดส่วนเป็นรถ SUV ด้วยฝากระโปรงหน้ายื่น กระจกหน้าตั้ง ทำให้ดูน่าเกรงขามกว่ารถที่เป็นสัดส่วน MPV แบบหน้าสั้น อันนี้เป็นจุดเด่นที่ต่างจากคู่แข่งอื่นชัดเจน

นอกจากรูปทรงแล้ว ยังมีออพชั่นเด่นที่คูแข่งอีก 2 รุ่นไม่มีคือ ให้ไฟตัดหมอก LED ให้การออกแบบเอาใจเบาะแถว 3 ด้วยการเข้าออกง่ายสุด พร้อมช่องชาร์จไฟคนนั่งแถว 3 อีกกด้วย สิ่งสำคัญคือ มีระบบความปลอดภัยอย่าง Honda Sensing ให้มาพร้อมถุงลม 6 ใบ รวมถึงข้อดีตรงการมีสมรรถนะที่แรงกว่าใครในระดับเดียวกัน พร้อมกับได้แป้น Paddle Shift มาให้เล่นระดับเกียร์เองด้วย

ราคา Honda BR-V

สิ่งที่เราไม่ชอบคือ ด้วยราคาขาย 973,000 บาท มันควรจะให้เซนเซอร์ถอยหลัง ให้เบรคมือไฟฟ้ากับ Auto hold อีกทั้งหน้าจอขนาดเล็กกว่าใคร และดีไซน์ปุ่มกดในคอนโซลดูโบราณ ไม่สปอร์ตเปรี้ยวแบบ City หรือไม่เรียบหรูอย่าง HR-V ทำให้หน้าตาไม่ดูแพงสมราคาไปด้วย อันนี้ต้องแลกกับมาตรฐานความปลอดภัยและเครื่องยนต์ ที่คุณพร้อมจะยอมจ่ายหรือไม่ หลังจากดูตามรางสเปคทางเทคนิคด้านล่างนี้

 

Honda BR-V 

Mitsubishi Xpander

Suzuki XL7

ราคารุ่นท็อป (บาท)

973,000

895,000

814,000

แรงม้า (PS)

121

105

105

แรงบิด (นิวตันเมตร)

145

141

138

เกียร์

CVT

CVT

4 สปีด

กว้าง/ยาว/สูง (มม.)

1,780/4,490/1,685

1,750/4,595/1,750

1,775/4,450/1,710

ฐานล้อ (มม.)

2,695

2,775

2,470

ความสูงใต้ท้องรถ (มม.)

209

220

200

น้ำหนัก (กก.)

1,240

1,250

1,185

ระบบความปลอดภัยก่อนการชน

Honda Sensing และ Honda Lane Watch

ถุงลมนิรภัย

6 ใบ

2 ใบ

2 ใบ

หน้าจอสัมผัส 7 นิ้ว 9 นิ้ว 10 นิ้ว
เบรคมือ มือจับ ไฟฟ้า/Auto hold มือจับ

Source: ขับมาเทียบ สรุปข้อดีและข้อเสียที่พบในรถ Suzuki XL7, Mitsubishi Xpander และ Honda BR-V

Leave a Reply

Your email address will not be published.

WelfulloutDoors.com