Subaru (ซูบารุ) เตรียมหยุดการวิจัยและพัฒนาขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดเพื่อมุ่งเน้นที่รถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว
สำนักข่าว Nikkei รายงานว่าแผนการดังกล่าวมีเป้าหมายสำคัญที่การลดต้นทุนการพัฒนารถยนต์พลังงานสะอาด ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับหลายบริษัทรถยนต์ที่เผชิญกับการใช้เงินลงทุนที่สูงในการนำเสนอขุมพลังขับเคลื่อนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และไฟฟ้า 100%
ค่ายรถตราดาวลูกไก่ตัดสินใจหยุดการพัฒนาปลั๊กอินไฮบริดเนื่องจากมียอดขายน้อย โดยมีสัดส่วนเพียง 2% เท่านั้นจากยอดขายทั้งหมดทั่วโลก
มีรายงานด้วยว่าบริษัทรถยนต์รายอื่น ๆ อาจดำเนินมาตรการคล้ายกันนี้ เพื่อจัดสรรทรัพยากรให้มีความคุ้มค่ามากขึ้น รวมถึงการปรับลดจำนวนแพลตฟอร์มลงและใช้โครงสร้างที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อลดต้นทุน
ที่ผ่านมา Subaru นำเสนอเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในรถยนต์ Crosstrek หรือ XV แต่ในปีหน้าจะไม่มีขุมพลังลูกผสมแบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ออกจำหน่ายอีกต่อไป
เมื่อปีที่แล้ว ยอดขาย Crosstrek ปลั๊กอินไฮบริดอยู่ที่เพียง 2,600 คันเท่านั้นในสหรัฐอเมริกา น้อยกว่า 1% ของยอดขายทั้งหมด
มุ่งเน้นรถยนต์ไฟฟ้า
ค่ายรถจากแดนอาทิตย์อุทัยวางแผนทุ่มเงินลงทุน 2.5 แสนล้านเยนหรือ 6.3 หมื่นล้านบาทในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าภายใน 5 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกัน ยังมีแผนการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในจังหวัดกุมมะ ทางเหนือของกรุงโตเกียวในปี 2027 อีกด้วย
ปัจจุบัน Subaru นำเสนอ Solterra รถเอสยูวีไฟฟ้า 100% ที่พัฒนาขึ้นมาร่วมกับ Toyota แต่มีรายงานว่า พวกเขาต้องการสร้างรถอีวีขึ้นมาเองทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญว่าอาจเป็นงานโหดหินของค่ายรถขนาดเล็กที่ต้องทุ่มงบลงทุนมหาศาล จึงเป็นที่มาของการตัดงบการพัฒนาปลั๊กอินไฮบริด
นั่นทำให้มีรายงานว่า Subaru จะหยิบยืมเทคโนโลยีไฮบริดจากพันธมิตรสำคัญอย่าง Toyota สำหรับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในปี 2025 โดยจะจัดจำหน่ายเคียงคู่รถยนต์ไฟฟ้าในระยะยาว